การทำหมันแมว มักจะทำเมื่อแมวมีอายุอย่างน้อย 8 สัปดาห์ หรือเมื่อเริ่มมีอาการติดสัด การทำหมันนั้นมีจุดประสงค์หลัก ๆ ก็เพื่อควบคุมประชากรของแมว หากเป็นการทำหมันแมวตัวผู้ จะทำด้วยการผ่าตัดเอาอัณฑะออก สำหรับแมวตัวเมียจะเป็นการผ่าตัดเพื่อเอารังไข่และมดลูกออก

หนึ่งในความเข้าใจผิดของหลาย ๆ คนเกี่ยวกับการทำหมันนั่นก็คือถ้าทำหมันแล้วแมวจะซึม หรือทำหมันแล้วแมวจะไม่มีความสุขเพราะไม่มีอารมณ์ทางเพศ แต่ความจริงแล้วการทำหมันแมวเป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรทำถ้าหากว่าคุณอยากให้เจ้าตัวน้อยสี่ขาของคุณมีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว

วันนี้เราจะไปเจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับการทำหมันแมว หากคุณเป็นพ่อแม่แมวมือใหม่ ต้องอ่าน

ทำหมันแมว ทำยังไง ?

การทำหมันแมวนั้นถือเป็นการผ่าตัดที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับแมวทั้งตัวผู้ตัวเมีย เพราะมันมาพร้อมกับข้อดีมากมายโดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพของแมว และการทำหมันให้แมวก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด

โดยขั้นตอนทำหมันแมวมีดังนี้

คนหยอกเล่นกับแมว

  • ดมยาสลบเพื่อให้แน่ใจว่าแมวไม่เจ็บปวดและไม่เคลื่อนไหวระหว่างผ่าตัด
  • หากเป็นแมวตัวเมียจะกรีดแผลเล็ก ๆ ในช่องท่องของแมว แล้วเอารังไข่และมดลูกออก หากเป็นตัวผู้จะทำการกรีดบริเวณถุงอัณฑะ และนำลูกอัณฑะออก ส่วนใหญ่แผลจะเล็กมากจนไม่ต้องเย็บแผล
  • เย็บปิดแผลให้เรียบร้อยหากจำเป็น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้ไหมเย็บ แล้วตัดไหมออกเมื่อแผลสมานกัน
  • หลังจากเสร็จเรียบร้อย แพทย์จะมีการให้กินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดแผล บางกรณีก็สามารถฉีดยาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บให้แมวได้ ซึ่งยาเหล่านั้นจะมีราคาแพงกว่ายาแก้ปวดแบบกิน และมีประสิทธิภาพดีกว่า
  • หากเป็นทำหมันแมวตัวผู้จะใช้เวลาฟื้นตัวเพียงแค่ 1-3 วันเท่านั้น ในขณะที่แมวตัวเมียจะใช้เวลามากกว่า 7-10 วันเลยทีเดียว

ทำหมันแมวแล้วได้อะไร ?

แมวขู่

คนที่พึ่งเลี้ยงแมวตัวแรกหรือเป็นพ่อแม่แมวมือใหม่อาจจะกลัวที่ต้องพาแมวไปทำหมัน เพราะการผ่าตัดเพื่อทำหมันแมวนั้นอาจจะดูเป็นเรื่องใหญ่และมีโอกาสเสียชีวิต แต่ความจริงแล้วการทำหมันแมวนั้นไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ฟื้นตัวไว การผ่าตัดทำหมันแมวนั้นถือเป็นการผ่าตัดเล็ก ๆ ดังนั้นแมวมีโอกาสเสียชีวิตน้อยมาก ๆ

นอกจากที่การทำหมันแมวจะลดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น มะเร็งอัณฑะ มะเร็งมดลูก แล้ว การทำหมันแมวยังช่วยลดพฤติกรรมก้าวร้าวของแมว ทำให้แมวดื้อน้อยลง และเรียบร้อยมากขึ้น

และที่สำคัญเลยก็คือเป็นการควบคุมประชากรแมวสำหรับคนที่ไม่ได้คิดจะมีแมวเพิ่มหรือไม่ได้ทำฟาร์มแมว

ประโยชน์ของการทำหมันแมว

  • ลดพฤติกรรมการฉี่ไม่เป็นที่ของแมว เพราะการฉี่ไปทั่วของแมวตัวผู้เพื่อปล่อยกลิ่นล่อตัวเมียมาผสมพันธุ์ ดังนั้นการทำหมันจะทำหมันแมวจะทำให้แมวไม่ต้องการผสมพันธุ์ แล้วก็จะไม่ฉี่ไปทั่ว
  • ลดพฤติกรรมก้าวร้าว กัดข้าวของ เพราะความก้าวร้าวมักจะเกิดจากอาการติดสัด เมื่อไม่ได้ผสมพันธุ์ตามสัญชาตญาณแมวจะเริ่มหงุดหงิด ดังนั้นการทำหมันแมวเพื่อให้แมวไม่ต้องการมีคู่ก็จะทำให้แมวเรียบร้อยขึ้นมาก ๆ เลยทีเดียว
  • ลดโอกาสที่แมวจะหนีออกจากบ้านเพื่อไปผสมพันธุ์ ทำให้แมวติดบ้าน ปลอดภัยจากอันตรายภายนอกมากขึ้น
  • ลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ของแมว เช่น โรคมะเร็งมดลูก มะเร็งอัณฑะ รวมไปถึงลดโอกาสที่แมวจะไปต่อสู้กับแมวตัวอื่นจนบาดเจ็บและติดโรค

อย่างไรก็ตาม หลังจากทำหมันแมวแล้วคุณอาจจะสังเกตว่าแมวดูขี้เกียจผิดปกติ นอนเยอะ กินเยอะ แล้วดูอ้วนขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติมาก ๆ เพราะการทำหมันแมวนั้นจะมีผลต่อฮอร์โมนส์ของแมวด้วยนั่นเอง

ซึ่งวิธีการดูแลแมวหลังทำหมันนั้นก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ให้แมวได้นอนอยู่เฉย ๆ ในที่สงบ ๆ อาจจะให้แมวอยู่ในกรงก็ได้ พยายามอย่าให้แมวขยับตัวเพราะอาจจะทำให้แผลฉีก และดูแลความสะอาด

ควรทำหมันแมวเมื่อไหร่ ?

การทำหมันแมวนั้นโดยปกติแล้วควรทำเมื่อแมวมีอายุตั้งแต่ 3 – 6 เดือน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแมว และอาการติดสัดของแมวด้วย

ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้จากอาการเหล่านี้

  • ร้องหง่าวตลอดเวลา ไม่สนใจของเล่น ไม่สนใจขนม
  • อยากออกไปข้างนอกทุกครั้งที่มีโอกาส หรือพยายามออกไปข้างนอกตลอดเวลา
  • ดมกลิ่นทั่วไป หรือฉี่ทั่วบ้าน

อาการเหล่านี้สามารถสันนิษฐานได้ว่าแมวเริ่มเข้าสู่ฤดูผสมพันธ์แล้ว และอาจจะต้องการทำหมัน อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งหากแมวมีอาการติดสัดรุนแรงแพทย์อาจจะไม่แนะนำให้ทำหมันโดยเฉพาะตัวเมีย เพราะอาจจะทำให้เสียเลือดมากระหว่างผ่าตัด มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ ควรรอให้พ้นช่วงติดสัดก่อนซึ่งโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 1-3 สัปดาห์

สรุป

การทำหมันแมวถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับพ่อแม่แมว เพราะการทำหมันแมวนั้นมีข้อดีมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพของแมว ที่จะทำให้แมวของคุณมีสุขภาพที่ดี คงที่ ลดโอกาสเกิดโรคต่าง ๆ แถมยังทำให้แมวอ้วนตุ้บน่ารักน่ากอดอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง