หมัดแมวส่งผลกระทบต่อสุขภาพแมวอย่างไร

ไม่ใช่แค่การเกาไม่หยุด หมัดแมวอาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง ติดเชื้อ หรือในกรณีรุนแรง อย่างภาวะโลหิตจาง หมัดแมวยังสามารถแพร่โรคต่างๆ เช่น พยาธิตัวตืด ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของน้องแมวมากขึ้น หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา หมัดอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมและคุณภาพชีวิตของพวกเขา การทำความเข้าใจถึงผลกระทบของหมัดหรือตัวไรแมวจะช่วยให้คุณสามารถดูแลและกำจัดหมัดแมวได้อย่างเหมาะสม ตั้งแต่การเรียนรู้วิธีกำจัดหมัดแมวที่บ้านไปจนถึงการปรึกษาสัตวแพทย์

ผลกระทบจากการถูกหมัดแมวกัด

• การระคายเคืองผิวหนังและอาการคัน:

  การถูกหมัดแมวกัดทำให้น้องแมวรู้สึกไม่สบายตัว ส่งผลให้พวกเขาเกา เลีย หรือกัดผิวหนังตัวเองมากเกินไป การทำความสะอาดตัวเองแบบนี้บ่อยครั้งอาจทำให้ขนร่วง ผิวแดง และเกิดสะเก็ดแผล ซึ่งจะยิ่งทำให้การระคายเคืองรุนแรงขึ้น

• โรคผิวหนังอักเสบจากน้ำลายหมัด (FAD):

  แมวบางตัวอาจมีอาการแพ้น้ำลายหมัด ส่งผลให้เกิดอาการคันรุนแรง ผิวหนังอักเสบ และมีรอยแดง อาการเหล่านี้สร้างความไม่สบายตัวอย่างมากและมักต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์อย่างเร่งด่วน

• ภาวะโลหิตจาง:

  แมวมีหมัดเยอะอาจทำให้เสียเลือดอย่างรุนแรงจนเกิดภาวะโลหิตจาง อาการที่สังเกตได้คือ เหงือกซีด เฉื่อยชา และอ่อนแรง โดยเฉพาะในลูกแมวหรือแมวที่มีการติดหมัดอย่างหนัก ภาวะนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

• โรคผิวหนังอักเสบและการติดเชื้อ:

  การเกาและกัดบริเวณที่ถูกหมัดกัดอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดแผลเปิด ส่งผลให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบ ซึ่งเป็นบริเวณที่เจ็บปวดและอักเสบ เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

• พยาธิตัวตืด:

  หมัดแมวที่มีตัวอ่อนของพยาธิตัวตืดสามารถแพร่เชื้อสู่น้องแมวระหว่างการเลียหรือทำความสะอาดตัวเอง เมื่อแมวกินหมัดเข้าไป หมัดเหล่านี้จะแพร่พยาธิตัวตืด ส่งผลให้เกิดปัญหาระบบย่อยอาหาร น้ำหนักลด และบางครั้งอาจพบพยาธิตัวตืดปนอยู่ในอุจจาระ

ผลกระทบทางพฤติกรรมและอารมณ์ของหมัดต่อแมว

• หงุดหงิดและก้าวร้าวมากขึ้น:

  อาการคันจากหมัดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้แมวรู้สึกหงุดหงิด ซึ่งอาจนำไปสู่ความอ่อนไหวต่อสิ่งรอบตัวและพฤติกรรมก้าวร้าว ความไม่สบายตัวนี้ทำให้พวกเขาแสดงอาการต่อต้าน แม้กระทั่งกับคนหรือสัตว์เลี้ยงที่คุ้นเคย

• กระวนกระวายและเครียด:

  หมัดแมวทำให้แมวกังวลใจตลอดเวลา ทำให้พวกเขาเดินไปมา ข่วน หรือกระสับกระส่าย ความรู้สึกไม่สบายตัวอย่างต่อเนื่องทำให้พวกเขากังวล ทำให้แมวเสียความสงบในสภาพแวดล้อมของตัวเอง

• พยายามทำความสะอาดขนมากผิดปกติ:

  แมวอาจเลียขนตัวเองมากเกินไปเพื่อพยายามกำจัดหมัด การทำความสะอาดตัวเองมากเกินไปนี้อาจส่งผลให้ขนร่วง เกิดแผล หรือพฤติกรรมซ้ำๆ ซึ่งส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพกายและจิตใจของพวกเขา

• การหลบซ่อนตัว:

  หมัดและเห็บแมวอาจทำให้พวกเขาหนีและซ่อนตัว พฤติกรรมนี้เกิดจากความรู้สึกเหนื่อยล้า ทำให้น้องแมวมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมน้อยลงและพฤติกรรมปกติเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

• ความอยากอาหารและความกระตือรือร้นในการเล่นลดลง:

  หมัดอาจทำให้พลังงานของแมวลดลงและความอยากอาหารหรือเล่นก็ลดลงเช่นกัน การไม่แสดงความกระตือรือร้นหรือพฤติกรรมซึมเศร้าบ่งบอกถึงผลกระทบหมัดที่มีต่อความสุขของแมว

• ความเครียดที่เพิ่มขึ้น:

  ความเครียดเรื้อรังจากแมวมีหมัดเป็นเวลานานทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ความเครียดที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้แมวป่วยง่ายขึ้น ซึ่งยิ่งทำให้ผลกระทบจากหมัดแย่ลง

การตรวจพบหมัดตั้งแต่เนิ่นๆ และการดูแลป้องกันอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหาเหล่านี้ การตรวจดูแมวของคุณอย่างสม่ำเสมอ รักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาด และใช้วิธีป้องกันที่เหมาะสมจะช่วยปกป้องเพื่อนขนฟูของคุณได้ การเอาใจใส่และดำเนินการอย่างทันท่วงทีจะช่วยให้น้องแมวของคุณมีชีวิตที่สบาย ปราศจากความเครียด และมีความสุขมากขึ้น ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างคุณและเจ้าเหมียวแน่นแฟ้นมากขึ้น